บัตรเครดิตคืออะไร

บัตรเครดิตคืออะไร มีกี่ใบดี ใครเหมาะที่จะเป็นเจ้าของ ใช้ยังไงให้ได้ประโยชน์แบบเน้นๆ ยิ่งยุคนี้ใช้จ่ายทั้งทีต้องคุ้มค่า บัตรเครดิต ลดรายจ่ายได้ไม่ยากเลยสรุปมาให้แล้วที่นี่ ใครๆก็มีบัตรเครดิต แต่ว่า บัตรเครดิตคืออะไร ตรงตัวเลย บัตรเครดิตก็คือ ความน่าเชื่อถือของเรา ที่เราจะใช้ความน่าเชื่อถือ ทางการเงิน ไปขอวงเงิน กับสถานบันทางการเงิน เพื่อนำมาใช้ชำระสินค้า และบริการต่างๆแทนเงินสด โดยที่สถาบันการเงินจะจ่ายให้เราไปก่อน และวงเงินที่จะได้จะขึ้นอยู่กับรายได้ของเรา ประมานนี้ และบัตรเครดิต ก็ยังเป็นเครื่องมือ ที่ทำให้เราสามารถใช้จ่ายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

บางท่านอาจจะคิดว่า อย่ามีเลย! บัตรเครดิต เพราะว่าใช้แล้วเดี๋ยวจะเป็นหนี้ แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมีบัตรเครดิตกันอยู่ เป็นเพราะอะไร ถ้าไม่ดีจริงเขาจะมีไว้ทำไม ถ้าท่านได้ลองศึกษา ได้ลองใช้จริงๆ บัตรเครดิต ถือว่ามีประโยชน์มากมายเลยก็ว่าได้

ถ้าไม่มีบัตรเครดิตจะพลาดประโยชน์ดีๆไปเยอะเลยก็ว่าได้ เช่น ส่วนลด โปรโมชั่น ของแถม หรือแม้กระทั้งการผ่อนชำระสินค้า แบบดอกเบี้ย 0% สมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้ที่ https://www.ktc.co.th/

ใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้ถูกวิธี

ใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้ถูกวิธี ไม่เสียดอกเบี้ยสักบาท ง่ายๆเพียงแค่ใช้เหมือนเงินสด แต่ไม่ต้องพกเงินสด ใช้บัตรเครดิตแทน และเราควรมีบัตรเครดิตกี่ใบดี เริ่มแรกเราควรมีบัตรเครดิต 1 ใบก่อน หลังจากนั้นก็ควรจะมีเพิ่มสัก2-3 ใบ
ทำไมถึงควรมีมากกว่า 1 ใบเพราะว่าบัตรเครดิต มี Credit term ที่ไม่เหมือนกัน หรือที่เราเรียกว่า รอบระยะการชำระเงิน โดยถ้าจะให้มองเป็นภาพ ก็จะเป็นดังนี้

การใช้บัตรเครดิตสิ่งที่เรา ต้องรู้ก่อนก็คือ วันสรุปยอดบัญชี และ วันครบกำหนดชำระ เพื่อที่เราจะสามารถวางแผนการจ่าย และบริหารเงิน เป็นวันสรุปยอดบัญชี ก็คือวันตัดยอดบัตรเครดิต ซึ่งยอดที่ตัดบัญชีนี้คือยอดที่เราต้องจ่ายในวันกำหนดจ่าย และวันครบกำหนดชำระคือ วันสุดท้ายที่ต้องจ่ายชำระหนี้ มิฉะนั้นจะต้องเสียดอกเบี้ยบัตรเครดิต ซึ่งถ้าหากจัดการวางแผนดีๆแล้วล่ะก็ เราจะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยสูงสุดสูงสุด ถึงประมาณ 45-50 วัน ตามเงื่อนไขของบัตร แต่ละแห่ง

ยกตัวอย่างเช่น บัตรเครดิตของ KTC มีวันตัดรอบบัญชีในวันที่ 17 ในทุกๆเดือน

และ มีวันกำหนดจ่ายในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป ถ้าใช้บัตรเครดิตรูดใน วันที่ 20 มกราคม ยอดนี้จะกลายเป็นยอดที่ต้องจ่ายของรอบเดือน กุมภาพันธ์ ที่จะต้องครบกำหนด ชำระในวันที่ 1 มีนาคม

แต่ถ้าเกิดเราใช้บัตรเครดิตก่อนวันที่ 17 มกราคม ยอดนี้จะถูกเรียกเก็บในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ทันที เห็นไหมล่ะคะว่าถ้าเรา วางแผนดีๆอดใจไปอีก 3 วัน ก็จะสามารถยืดเวลาการจ่ายชำระได้อีกเดือนกว่า โดยไม่เสียดอกเบี้ยเลยสักบาท เพราะอยู่ใน ช่วงที่เรียกว่าปลอดดอกเบี้ย

แต่ถ้ามีหลายใบมากเกินกว่านั้นก็ได้ นะคะแต่ว่าจะยากในการจำ และก็จะเพิ่มความรับผิดชอบในการบริหารมากยิ่งขึ้นนะคะ และอาจจะทำให้เราลืมจ่าย ทำให้เราต้องเสียดอกเบี้ยแทนที่จะได้กำไร จากบัตรเครดิต ต้องเสียผลประโยชน์เลยนะคะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต้องจำให้ได้นะคะ ก็คือวันตัดรอบบัญชี และรอบชำระค่ะ

เลือกบัตรเครดิตประเภทอะไรดี

เริ่มแรกเราแนะนำให้เลือก บัตรเครดิตที่ไม่มี ค่าธรรมเนียมรายปี และ ธรรมเนียมค่าแรกเข้า เพราะว่าเราจะได้ไม่ต้องกังวลว่าใช้ขั้นต่ำเท่าไรใช้กี่ครั้งต่อปีจึงจะไม่เสียค่าธรรมเนียม เพราะว่าแต่ละสถานบันทางการเงิน ก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน

เลือกประเภทบัตรอะไรดี ไม่ว่าจะเป็น MASTERCARD, VISA, JCB และ UNIONPAY เราแนะนำให้เลือกจากโปรโมชั่น แต่ละประเภทบัตร มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง เลือกในสิ่งที่เราชอบใช้นะคะ แต่ว่าไม่ต้องกังวลไปเลยเพราะว่าเรา สามารถเพิ่มบัตรได้ที่หลังโดยที่เราไม่ต้องกรอกเอกสารใหม่ แค่โทรหา Call Center ขอเพิ่มบัตรเครดิต บัตรก็จะมาส่งให้ถึงหน้าบ้านเลยคะ

เทคนิคการใช้บัตรเครดิตให้มีประโยชน์ใช้อย่างไร

ก่อนอื่นเลย ต้องขอบอกว่า บัตรเครดิต เหมาะสำหรับคนที่สามารถบริหารเงินได้นะคะ โดยที่เราจะไม่ใช้เกินกรอบความสามารถในการชำระของเรา โดยเฉพาะ ช่วงที่เราอยากได้ของเยอะๆ ต้องหักห้ามใจให้ดีเลยนะคะ แต่วันนี้มีวิธีสำหรับมือใหม่ในการควบคุมรายจ่าย คือเอาเป็นว่า ตัดรอบบิลเมื่อไร มีจ่ายแน่นอนคะ

คุณสมบัติผู้สมัครบัตรเครดิต

ผู้มีรายได้ประจำ, พนักงานบริษัท, ข้าราชการ

‣ อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

‣ รายได้ 15,000 บาท / เดือน ขึ้นไป

เอกสารประกอบการสมัคร

พนักงานบริษัท, ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ

‣ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ

‣ สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ หรือสำเนาหนังสือเดินทาง ต้องแนบสำเนาทะเบียนบ้าน

‣ เอกสารแสดงรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน/สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทวิ 50 เป็นต้น

‣ สำเนาบัญชีธนาคารที่เป็นบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน พร้อมหน้าสมุดที่ระบุชื่อ – เลขที่บัญชี

‣ กรณีชาวต่างชาติทำงาน/ประกอบธุรกิจในไทย แนบสำเนาหนังสือเดินทาง ​(Passport) และใบอนุญาตทำงานในไทย (Work Permit) ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป

บทสรุปของเรื่อง บัตรเครดิตคืออะไร